
วันนี้เราจะมาต่อกันเลยนะครับ กับ สิ่งลึกลับที่นักวิทยาศาสตร์นั้นไม่สามารถหาคำตอบได้ อีก 5 สถานที่ นั้น จะมีสถานที่ไหนบ้างตามมาดูกัยต่อเลยนะครับ
อันดับที่ 5 ต้นไม้ซ้อนสอง
ในแถบชานเมืองของประเทศอิตาลีมีต้นไม้ประหลาดอยู่ 1 ต้น หรือต้องบอกว่ามี 2 ต้นจะดีกว่า เพราะมันคือต้นมัลเบอร์รีขนาดใหญ่ ที่แสนจะอุดมสมบูรณ์ ซึ่งที่บนต้นนของมันเองนั้นก็มีต้นเชอรี่ขนาดใหญ่ ที่เติบโตซ้อนกันเอง และไม่มีใครรู้ว่าทำไมต้นไม้ทั้งสองจึงเติบโตซ้อนกันได้ใหญ่ขนาดนี้ แต่มีชาวท้องถิ่นนั้นบอกว่า อาจจะเป็นเพราะนกน้อยบางตัวได้นำเมล็ดของต้นเชอรี่มาทิ้งไว้จึงทำให้มันเติบโตเคียงข้างกันและใหญ่โตมาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
อันดับที่ 4 หมู่บ้านแห่งการหลับไหล
ชาวบ้านจำนวนถึง 1 ใน 4 ของหมู่บ้านคาราชิ ในประเทศคาซัคสถาน ต้องเผชิญกับโลกลี้ลับที่ส่งผลเกี่ยวกับการนอนหลับของเขา โดยอาการป่วยนี้ เริ่มต้นเกิดกับบุคคลในหมู่บ้านตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งมีผลทำให้พวกเขานั้นนอนหลับในเวลากลางวันและต้องตื่นมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ปวดหัว และจำอะไรไม่ได้ ผลจากการตรวจสอบอากาศน้ำอาหารและพื้นที่อยู่อาศัยมากกว่า 20,000 ครั้ง ของการทดสอบไม่พบสาเหตุของปัญหานี้แม้แต่น้อย ทำให้ผู้คนนั้นเริ่มสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน แต่อาจจะมาจากเหมืองเก่าแก่ของสหภาพโซเวียต ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้นเอง
อันดับที่ 3 กฎการเสียงลึกลับ
The Town Hall เป็นปรากฏการณ์เสียงลึกลับ ที่เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และยุโรปเหนือ โดยเสียงนี้จะดังติดต่อกันตลอดเวลา และเสียงนี้จะดังเอามากๆ ในตอนกลางคืน ทำให้ผู้ที่ได้ยินนั้นหลอนกันไปตามๆ กัน และก็ยังไม่มีใครรู้ว่าต้นเสียงนั้นมาจากที่ไหนกันแน่ โดยจากสถิติคนในเมืองนั้นจะมีคนที่ได้ยินเพียงแค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และสุดท้ายก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดสำหรับเสียงปริศนานี้จึงกลายมาเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้จนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
อันดับที่ 2 สายฟ้าที่ผ่าแบบไม่มีวันหยุด
เวลาที่ฝนตกแล้วเกิดฟ้าผ่าพี่ไม่กี่ครั้ง เราก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่ถ้าหากมีฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างตลอดทั้งวันทั้งคืน ประมาณว่า 260 วันต่อปี มันจะน่ากลัวขนาดไหน ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่น้ำกาตาตุมโบในประเทศเวเนซูเอลาแห่งนี้กันแน่ จึงทำให้มันมีฟ้าผ่าแบบหนักหน่วงแทบจะทุกคืนเลยทีเดียว นักวิทยาศาสตร์บางคนนั้นได้สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นเพราะที่ตั้งของมันและแร่ธาตุบางอย่างที่อยู่ในน้ำ จึงทำให้มันมีสภาพคล้ายกับสายล่อฟ้า และทำให้ฟ้าผ่าแบบไม่หยุดแบบนี้ ซึ่งถ้ามองข้ามความอันตรายของมัน การที่จะได้เห็นภาพพายุสายฟ้ากับตาสักครั้งในชีวิต ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย และไม่แน่นะครับ การที่มีฟ้าผ่ามากมายขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะมีเทพซุสอาศัยอยู่ณสถานที่แห่งนี้ก็เป็นได้
อันดับที่ 1 แม่น้ำเดือดในป่าอเมซอน
นักธรณีวิทยาหนุ่มที่เคยได้ยินเรื่องราวของสายน้ำมรณะจากปากของคุณปู่ตัวเอง ซึ่งคุณปู่เขาเลยเล่าว่า มีนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งในยุคจักรวรรดิอินคาได้เข้าไปในเข้าไปในป่าอเมซอนเพื่อค้นหาทองคำ แต่เมื่อพวกเขาได้เข้าไปแล้วกลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตออกมาได้ โดยพวกเขาได้เผชิญกับฝันร้ายในที่แห่งนั้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำที่เป็นพิษ งูที่กินคน และสายน้ำที่พร้อมจะฆ่าทุกชีวิตแบบทั้งเป็น นักธรณีวิทยาหนุ่มไม่ได้สนใจในคำบอกเล่าของปู่มากนัก จนกระทั่งเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้จากปากของคุณน้าของเขา ที่เคยไปเยือนณสถานที่แห่งนี้มันแล้ว จึงทำให้เขาเริ่มประหลาดใจ และอยากที่จะไปลองสัมผัสแม่น้ำสายมรณะแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง และเขาตัดสินใจออกเดินทางไปเพื่อหาคำตอบด้วยตัวเองในปี 2011 และในที่สุดเขาก็พบว่าสายน้ำที่เดือดระอุดั่งนรกนั้นมีอยู่จริงๆ เมื่อเขาเดินทางไปถึงก็ได้พบกับแม่น้ำแห่งนี้ที่ทอดตัวยาวกว่า 6 กิโลเมตร โดยมีจุดที่กว้างที่สุดที่ประมาณ 25 เมตร และลึกสุดที่ 6 เมตร ซึ่งภูมิความร้อนของน้ำแต่ละจุดนั้นมีความแตกต่างกันออกไป บางจุดก็ร้อนมากถึงเดือนเลยทีเดียว แต่บางจุดนั้นก็ร้อนน้อยหน่อย นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าถ้าหากคุณเอามือแตะลงไปในน้ำ มันสามารถร่วมมือของคุณได้ภายในเวลาเพียงครึ่งวินาที และหากคุณตกไปแล้วล่ะก็แน่นอนว่า มันสามารถฆ่าคนได้เลยทีเดียว
และนี้คือสถานที่ 9 แห่ง ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบได้นั้นเอง และหากคุณได้มีโอกาสสักสถานที่ คุณจะไปที่ไหนในสถานที่ 9 แห่งนี้
ผู้เขียน
in my life