
หลายคนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน ไม่ค่อยออกไปไหน ซึ่งการอยู่แต่ในบ้าน ก็อาจจะมีข้อเสียในเรื่องค่าไฟ ที่บางครั้งต้องเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นแทบจะทั้ง ซึ่งหลายคนก็คงจะมีความสงสัยและอดคิดไม่ได้แน่ว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดบ้างที่กินค่าไฟเราไปมากที่สุด และในวัน human จะพาคุณไปหาคำตอบพร้อมๆกัน โดยเราจะทำการจัดเป็น 5 อันดับ ดังต่อไปนี้
อันดับ 5 หม้อหุงข้าว

หม้อหุงข้าว จะกินไฟประมาณ 450-1,500 วัตต์ เมื่อนำมาคำนวณกับค่าไฟเฉลี่ย คิดเป็นค่าไฟชั่วโมงละ 2-6 บาท ดังนั้น วิธีการที่จะใช้หม้อหุงข้าวอย่างประหยัด ควรเลือกใช้หม้อที่มีขนาดพอดีกับคนในครอบครัว และหุงข้าวให้พอดีกับการกินในแต่ละมื้อ ใส่น้ำให้เหมาะสม ปิดฝาให้แน่นสนิท และถอดปลั๊กออกหลังใช้เสร็จทุกครั้ง
อันดับ 4 เตารีดไฟฟ้า

เตารีดไฟฟ้า จะกินไฟประมาณ 750-2,000 วัตต์ เมื่อนำมาคำนวณกับค่าไฟเฉลี่ย คิดเป็นค่าไฟชั่วโมงละ 3-8 บาท ดังนั้น วิธีการที่จะใช้เตารีดอย่างประหยัด ต้องตรวจสอบสภาพก่อนใช้งานทุกครั้ง ทั้งปลั๊กเสียบและสายไฟต้องไม่ชำรุด ปรับความร้อนให้เหมาะสมกับเนื้อผ้า เริ่มรีดจากตัวที่บางก่อนตัวที่หนา รีดครั้งละเยอะๆ เมื่อเลิกใช้งานแล้วให้ถอดปลั๊กทุกครั้ง
อันดับ 3 เครื่องซักผ้า

เครื่องซักผ้า จะกินไฟประมาณ 3,000 วัตต์ คิดเป็นค่าไฟชั่วโมงละ 12 บาท ดังนั้น เคล็ดลับในการใช้เครื่องซักผ้าอย่างประหยัด ควรใส่ปริมาณเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับตัวเครื่อง ไม่มากหรือน้อยเกินไป หากมีแค่ 1-2 ชิ้น ควรเปลี่ยนจากซักเครื่องเป็นซักมือแทน หมั่นตรวจสอบปลั๊กไฟ โครงเหล็ก และตัวเครื่องให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ และควรถอดปลั๊กหลังจากเลิกใช้งานทุกครั้ง
อันดับ 2 เครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศ จะกินไฟประมาณ 1,200-3,300 วัตต์ คิดเป็นค่าไฟชั่วโมงละ 5-13 บาท ดังนั้น เคล็ดลับในการประหยัดของการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ควรที่จะเลือกซื้อเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงและมีขนาดเหมาะสมกับห้อง พร้อมปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด ติดตั้งในระดับที่สูงพอดี มีที่ระบายความร้อน และไม่ไว้ใกล้วัตถุไวไฟ
อันดับ 1 เครื่องทำน้ำอุ่น

เครื่องทำน้ำอุ่น จะกินไฟประมาณ 2,500-12,000 วัตต์ คิดเป็นค่าไฟเฉลี่ยชั่วโมงละ 10-47 บาท ดังนั้น เคล็ดลับในการประหยัดของเครื่องทำน้ำอุ่น ควรที่จะเลือกซื้อเครื่องที่มีขนาดเหมาะสม พร้อมต่อสายดินให้เรียบร้อยและทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ปรับอุณหภูมิให้พอดี อย่าให้ร้อนมากเกินไป ปิดก๊อก ปิดวาล์ว และปิดสวิซต์ทุกครั้งหลังใช้เสร็จ เมื่อพบรอยรั่วให้รีบแก้ไข รวมถึงลดการใช้น้ำอุ่นแบบไม่จำเป็นในฤดูร้อนด้วย